วิธีการปลูกต้นมะม่วง (วิธีที่ 2)

     การปลูกต้นมะม่วงนั้น จะปลูกด้วยกิ่งตอน หรือกิ่งทาบ หรือเพราะเมล็ดก็ได้ แต่ระวังอย่าให้รากขาดมากเกินไปเพราะอาจตายได้หากปลูกจำนวนหลายต้นให้ปลูกในฤดูฝนจะได้สะดวกไม่ต้องรดน้ำบ่อย มะม่วงจะชอบดินที่ร่วนซุย, โปร่ง, ระบายน้ำและอากาศดี
ระยะการพัฒนาจนครบรอบเป็นดังนี้
- มิถุนายน (ตัดแต่งกิ่ง)
- กรกฎาคม (ตัดแต่งกิ่ง>แตกใบอ่อน ครั้งที่ 1)
- สิงหาคม (แตกใบอ่อน)
- กันยายน (แตกใบอ่อน ครั้งที่ 2)
- ตุลาคม (พักตัว)
- พฤศจิกายน (พักตัว)
- ธันวาคม (แทงช่อดอก) เริ่มให้น้ำบ้าง
- มกราคม —>ดอกบาน
- กุมภาพันธ์ (ผสมเกสร ติดผลอ่อน)
- มีนาคม (ขยายผล)
- เมษายน (เข้าไคล)
- พฤษภาคม-มิถุนายน (ผลแก่–>เก็บเกี่ยว–>ตัดแต่งกิ่ง)

     ปลูกแรกๆต้นไม้อาจจะยังตั้งตัวไม่ได้ดีนัก เช่น เมื่อโดนแดดแรงๆอาจเฉา ให้หาอะไรบังแดดไว้ก่อนในระยะแรกๆ


การรดน้ำต้นมะม่วง
ระยะที่ต้นมีอายุไม่ถึง 3 ปี ให้รดน้ำบ่อยๆ อย่าให้ดินแห้ง และให้น้ำชุ่มตลอดทั้งปี หลังจากนั้นให้รดน้ำดังนี้
1.เมื่อเก็บผลผลิตเสร็จแล้ว (ระยะเก็บเกี่ยวประมาณ มี.ค.-เม.ย.) ควรมีการตัดแต่งกิ่งในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ตัดกิ่งออกประมาณ 20-30% เพื่อลดแหล่งหลบซ่อนศัตรูพืชและทำให้พุ่มต้นโปร่งสามารถรับแสงได้ดี และควรใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี และทุกครั้งที่ใส่ต้องรดน้ำตาม ควรรดน้ำบ่อยๆ ในช่วงเร่งการเติบโตทั้งทางลำต้น กิ่งใบ
2.ระยะที่มะม่วงก่อนจะออกดอก (มักเป็นช่วงหลังฤดูฝน) ช่วงนี้งดให้น้ำอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อให้มะม่วงพักตัว หรือชลอการโตทางลำต้นกิ่งใบ เพื่อสะสมอาหารเตรียมแทงช่อดอก ระยะนี้สังเกตว่าใบมะม่วงจะมีสีเขียวเข้มหนาและแข็ง และอาจใช้วิธีสุมควันไฟร้อนเพื่อไล่ความชื้นในดินและช่วยกำจัดศัตรูพืชอีกด้วย และควันไฟมีแก๊สเอทิลีนที่เป็นสารสำคัญที่กระตุ้นให้มะม่วงออกดอกอีกด้วย
3.ระยะมะม่วงออกดอกผลและดอกเริ่มบาน (ช่วง ต.ค.-พ.ย. ให้ใส่ปุ๋ยเฉพาะโพสแทสเซียมและฟอสฟอรัส)ก็เริ่มให้น้ำน้อยๆพอหน้าดินเปียก จนกว่าจะผสมเกสรติดเป็นผลอ่อนเล็กๆ จึงค่อยเพิ่มการให้น้ำมากขึ้นบ้าง แต่ยังไม่มาก หลังจากนั้นประมาณ 6 สัปดาห์ให้น้ำสม่ำเสมอจนผลมะม่วงมีอายุ 10 สัปดาห์ นับจากวันดอกบานให้ลดน้ำลง จนผลมีอายุ 90 วัน (ระยะเก็บเกี่ยวอยู่ในช่วง 100-110 วัน)

     วิธีสังเกตว่าให้น้ำมากหรือน้อยไป ให้ดูที่ขั้วดอกและขั้วผล ถ้าดูแห้งแสดงว่าให้น้ำน้อยไป แต่ถ้าขั้วเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลแสดงว่าให้มากไป

การใส่ปุ๋ย
หากต้นเล็กๆให้ใช้วิธีขุดพรวนดินรอบๆต้น ใส่ปุ๋ยบริเวณรอบๆทรงพุ่มแและอย่าใส่ตรงโคนต้นเพราะจะทำให้ต้นเน่าได้ ส่วนต้นที่โตแล้วอาจใช้วิธีขุดเป็นรางดินรอบต้นภายในรัศมีทรงพุ่ม ลึกประมาณ 6 นิ้ว ใส่ปุ๋ยคอก,หมัก,เคมี แล้วกลบดิน รดน้ำ (รากที่หาอาหารคือรากฝอยจะอยู่มากบริเวณรัศมีทรงพุ่ม)
1.ก่อนเก็บเกี่ยว หรือช่วงเก็บเกี่ยว ให้ใส่ปุ๋ยหมัก, คอก ไปกองไว้รอบๆพุ่มต้น (ยังไม่ต้องให้น้ำ) จนกว่าเก็บผลหมดจึงค่อยเกลี่ยๆปุ๋ย กลบดินเล็กน้อยและรดน้ำไปด้วย ขนาดต้น 5 ปีให้ใช้ 2-3 ปี๊ป และใช้สูตรเท่ากันเช่น 15-15-15, 17-17-17 เพิ่มไปด้วย โดยดูความสมบูรณ์ของต้นมะม่วง อาจจะให้ครึ่งหนึ่งของทรงพุ่ม จากนั้นใช้ปุ๋ยเคมีเร่งดอก สูตร 10-20-30
2. เมื่อมะม่วงเริ่มมีผลอ่อนๆ ให้ปุ๋ยหมัก,คอก กับเคมีสูตรเท่ากัน เช่น 15-15-15, 17-17-17 อีกครั้ง
3.เมื่อผลเริ่มโตแล้วขนาด 2/3 ให้ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสูตร 10-20-30, 12-22-32 (หรือสูตรที่ตัวเลขท้ายสูงๆ เพื่อเร่งให้คุณภาพและรสชาติหวานมากขึ้น)
** สำหรับต้นมะม่วงที่โตแล้วแต่ยังออกผล ให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 4-7-5 หรือ 4-9-3 เพื่อเพิ่มสารอาหารในดินหากดินมีสารอาหารที่สมบูรณ์ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีเลยก็ได้ เพียงแต่บำรุงดินด้วยปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักก็ใช้ได้เหมือนกัน

วิธีตัดแต่งกิ่งมะม่วง
1.เลือกลำต้นหลัก 1 ลำต้น ความสูงประมาณ 75-100 ซม.
2.ทำลายตายอด จะทำให้ตาข้างผลิเกิดเป็นกิ่งแขนง แล้วให้เลือกกิ่งสาขาประมาณ 3-5 กิ่ง ตามขนาดทรงพุ่มที่ต้องการ
3.การตัดอย่าตัดไว้ตอให้ตัดเรียบกับลำต้นหรือกิ่งใหญ่ แล้วควรทาปูนขาว หรือ ปูนกินกับหมาก หรือ สารป้องกันเชื้อราทาเพื่อป้องกันเชื้อรา
4.ตัดแต่งกิ่งที่แก่ๆออกไปบ้าง
วิธีการปลูกต้นมะม่วง (วิธีที่ 2) วิธีการปลูกต้นมะม่วง (วิธีที่ 2) Reviewed by Unknown on 10:34:00 Rating: 5
loading...
ขับเคลื่อนโดย Blogger.